ผมเชื่อว่าคงไม่มีคนไทยคนไหนรู้สึกภาคภูมิใจกับสถิติจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นอันดับ 1 ในเอเชียและเป็นอันดับ 2 ของโลกของประเทศไทยเราเป็นแน่
อุบัติเหตุ เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมทำให้มีคนได้รับบาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะ พิการ เสียสติ เสียชีวิต เสียเงิน ทรัพย์สินและสิ่งแวดล้อมเสียหาย รวมทั้งเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ด้วย ซึ่งถ้าถามคนไทยทุกคน คงได้รับคำตอบเดียวกันว่าไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างแน่นอน
เมื่อวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุ จะพบว่าส่วนใหญ่เกิดจากความประมาทและความไม่ใส่ใจของคนขี้เกียจและคนมักง่ายเสมอ คนขี้เกียจกับคนมักง่าย มักจะมีแนวคิดคล้ายๆ กันคือ คิดบวกเชิงลบ หมายถึง คิดเพื่อที่จะไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ หรือ คิดเพื่อที่จะทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ โดยคิดเข้าข้างตัวเองว่าไม่น่าจะเกิดอะไรขึ้น แป๊ปเดียว ไม่เป็นไร ใครๆ ก็ทำกัน เช่น การจอดรถในที่ห้ามจอด ขับรถสวนเลน ฝ่าไฟแดง แซงในที่คับขัน ไม่ชะลอความเร็วเมื่อผ่านทางร่วมทางแยก ไม่จอดพักเมื่อง่วงนอน เป็นต้น ความมั่นใจในตัวเองในการขับรถมากเกินไป หรือความไว้ใจการขับรถของผู้อื่นมากเกินไปจนกลายเป็นความประมาทก็ถือว่าเป็นการคิดบวกเชิงลบด้วยเช่นกัน
การคิดลบเชิงบวกอาจเป็นวิธีคิดที่จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้บ้าง เช่น ถ้าเห็นสัญญาณไฟเหลือง ให้คิดลบไว้ก่อนว่าอาจมีคนขับอีกฝั่งหนึ่งตัดสินใจออกรถมาก่อนและทำให้เราชนเขาได้ ทำให้เราอาจเลือกที่จะหยุดรถดีกว่า หรือถ้ากำลังจะจอดหน้าร้านสะดวกซื้อริมถนนซึ่งเป็นที่ห้ามจอด ให้คิดว่า ถ้าเกิดมีใครขับมอเตอร์ไซด์มาชนท้ายแล้วมีคนบาดเจ็บ คงทำให้เราต้องเสียอย่างอื่นมากกว่าเสียเวลาหาที่จอดที่ปลอดภัยแน่และเราอาจเลือกที่จะไม่จอดก็ได้
การคิดเพื่อที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง บางครั้งต้องใช้จินตนาการถึงเรื่องเลวร้ายและผลกระทบด้านลบมากมายที่จะตามมาถ้าเรากำลังคิดที่จะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพื่อเตือนสติและกระตุกต่อมความคิดของเราให้กลับมาให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล หรือเป็นประเภทชั่วดีรู้หมด แต่อดใจไม่ไหว
มาช่วยกันคิดลบเชิงบวกเพื่อลดอุบัติเหตุกันดีกว่า เพื่อให้ประเทศไทยได้เป็นที่ 1 ในด้านความปลอดภัยบนท้องถนนครับ
ณัฐ นิวาตานนท์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ดี.จี. ทรานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด : ผู้ให้บริการขนส่งวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์