ความอยากรู้อยากเห็น
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้ว่า “ฉันไม่ได้มีพรสวรรค์พิเศษ ฉันเป็นเพียงแค่คนที่โคตรอยากรู้อยากเห็นเท่านั้น” – I have no special talents. I am only passionately curious หากเขาเกิดในยุคดิจิตัลอย่างทุกวันนี้ เขาคงได้ใช้จินตนาการและความคิดอันสุดยอดของเขาเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อโลกได้อีกมากมายมหาศาลเพราะองค์ความรู้สมัยนี้สามารถค้นหาได้ภายในไม่กี่วินาที ความฉลาดของคนในยุคปัจจุบันนี้จึงไม่ได้อยู่ที่ว่าใครมีความรู้และจำได้มากกว่ากัน แต่มันอยู่ที่จินตนาการของใครดีกว่ากันตามที่ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้ว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ – Imagination is more important than knowledge
ในโลกยุคที่มีข้อมูลข่าวสารท่วมจอ เข้าถึงได้สะดวกและรวดเร็วเช่นนี้ อาจทำให้ความรู้ที่ได้รับจากความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องเดียวกันมีความแตกต่างกันแบบสุดขั้ว ฉะนั้น การบริโภคข้อมูลอย่างฉลาดจึงจำเป็นต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณและรอบคอบก่อนตัดสินใจเชื่อและนำข้อมูลที่ได้รับนั้นไปใช้ในชีวิตจริง
ความอยากรู้อยากเห็นมีความหมายลึกซึ้งกว่าความอยากรู้ธรรมดาเพราะมันมีความอยากเห็นที่ไม่ใช่แค่การเพ่งดู มาประกอบให้เกิดความรู้แจ้งเห็นกระจ่างทำให้เกิดความรู้ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและต้องการนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ได้อย่างแท้จริง ต่างจากความสอดรู้สอดเห็นที่เป็นการอยากรู้ในเรื่องที่ไม่ควรรู้ของผู้อื่นและไม่มีประโยชน์ใดๆ ต่อตัวเองเลย
ความอยากรู้อยากเห็นเป็นคุณลักษณะนิสัยโดยรวมของคนช่างสังเกต ช่างซักช่างถาม สงสัยใคร่รู้และไม่มีทางล้มเลิกที่จะหาคำตอบเด็ดขาดตราบใดที่เรื่องที่อยากรู้อยากเห็นนั้นยังค้างคาใจอยู่ คนที่มีนิสัยเช่นนี้จึงมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าเพราะมันจะนำมาซึ่งความรู้และความเข้าใจที่ทำให้สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรื่องที่อยากรู้อยากเห็นนั้นเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของตนเอง
เรามักเรียกคนที่มีความรู้และสามารถนำความรู้นั้นไปปฏิบัติให้เกิดผลได้จริงว่าคนฉลาด แต่คนฉลาดไม่ได้หมายความว่าต้องรู้ทุกเรื่อง เราควรรู้ในเรื่องที่ควรรู้ ถ้าเราอยากรู้ว่าตัวเองฉลาดหรือไม่ ให้ลองถามตัวเองอย่างตรงไปตรงมาว่าปัจจุบันเรารู้เรื่องอะไรอย่างลึกซึ้งจนเป็นที่ยอมรับของผู้อื่นบ้าง และเรื่องที่รู้นั้นสามารถสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นต่อตัวเองได้อย่างไร มันจะช่วยทำให้เรามีโอกาสก้าวหน้าหรือประสบความสำเร็จในอนาคตมากน้อยแค่ไหน ถ้ายังตอบได้ไม่ชัดเจน ขอแนะนำให้รีบไปหาวิธีเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นให้ตัวเองโดยด่วน
ความอยากรู้อยากเห็นเป็นจุดกำเนิดของการตั้งคำถามขึ้นในใจ แต่ถ้าจะใช้เพื่อขอคำตอบที่เป็นความรู้จากผู้อื่นให้ได้ผลดีตามที่ต้องการ ต้องใช้ศิลปะและวาทศิลป์เข้าช่วย ต้องถามด้วยคำถามและกริยาท่าทางที่ทำให้เขาอยากตอบด้วยความเต็มใจ ความอยากรู้อยากเห็นที่แสดงออกด้วยความก้าวร้าว ขาดความอ่อนน้อมถ่อมตนนอกจากจะไม่ได้รับความรู้แล้ว ยังอาจเป็นที่รังเกียจในสังคมอีกด้วย
ความอยากรู้อยากเห็นเปรียบเสมือนบันไดขั้นแรกที่จะพาเราก้าวไปสู่ความก้าวหน้าและเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตทุกด้าน ดังนั้น เราควรอยากรู้อยากเห็นในเรื่องที่เป็นประโยชน์ เอื้อต่อการสร้างผลงานของตัวเองให้เป็นที่ถูกใจของผู้ว่าจ้างและลูกค้าเป็นสำคัญ ไม่ใช่มุ่งแต่ให้ถูกใจตัวเองก่อนเพราะโอกาสที่เราจะโชคดีที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบและคิดว่าใช่ แล้วบังเอิญถูกใจผู้ว่าจ้างและลูกค้าด้วย คงจะน้อยเต็มที
ณัฐ นิวาตานนท์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ดี.จี. ทรานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ผู้ขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายมืออาชีพ