รักษาสิ่งแวดล้อม
หน้าที่สำคัญที่ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าประเภทวัตถุอันตรายมืออาชีพไม่ควรมองข้าม คือ หน้าที่บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์จิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม แล้วนำไปปลูกให้กลายเป็นต้นไม้แห่งความตระหนัก และคอยดูแลเอาใจใส่ให้ออกดอกออกผลเป็นความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม ให้เกิดขึ้นในจิตใจของพนักงานทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...กับพนักงานขับรถ ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุด ที่นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของสินค้าแล้ว ยังต้องมีความสามารถในการแก้ไขเหตุฉุกเฉินหากเกิดปัญหารั่วไหลดังกล่าวขึ้นในระหว่างการขนส่งด้วย
เป้าหมายหลักในการรักษาสิ่งแวดล้อมในงานขนส่งสินค้าประเภทวัตถุอันตราย คือ การดูแลไม่ให้สินค้ารั่วไหลหรือหกหยดในทุกขั้นตอนของกระบวนการขนส่ง โดยต้องเริ่มต้นจากการศึกษาคุณสมบัติของวัตถุอันตรายตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อมูลด้านความปลอดภัย หรือที่เรียกว่า Safety Data Sheet ให้มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ รวมถึงมีความเข้าใจในมาตรฐานความปลอดภัยสากล ข้อกำหนดต่างๆของลูกค้า สถานที่รับและส่งสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฏหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
แม้ว่าการออกแบบรถขนส่งจะถูกต้องตามมาตรฐานหรือการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถจะเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ทุกประการแล้วก็ตาม การรั่วไหลของสินค้าก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้จากเหตุสุดวิสัยหรือปัจจัยอื่นๆ ที่ควบคุมไม่ได้ ดังนั้น ในระหว่างที่กำลังปฏิบัติงานลงสินค้า นอกจากพนักงานขับรถจะต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลหรือ PPE ให้ครบถ้วนตลอดเวลาแล้ว ยังต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับรับมือกับการแก้ไขเหตุฉุกเฉินหากเกิดการรั่วไหลขึ้นด้วย
ดังนั้น การจะสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า สังคมและผู้เกี่ยวข้องรับรู้และสัมผัสได้จริงว่า พนักงาน DGTRANS ทุกคนมีจิตสำนึก “รักษ์สิ่งแวดล้อม” จึงต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ มากกว่าการใช้คำพูดที่สวยหรู หรือ การทำป้ายประชาสัมพันธ์ที่ใหญ่โต โดยพนักงาน DGTRANS ทุกคนจะต้องให้คำมั่นสัญญาว่า การรักษาสิ่งแวดล้อม คือ พันธกิจที่พวกเราต้องธำรงรักษาไว้ให้ได้ตลอดไป
ณัฐ นิวาตานนท์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ดี.จี. ทรานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ผู้ขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายมืออาชีพ
============= ================ =============
ท่านสามารถรับชมบทความนี้ในรูปแบบคลิป VDO ตาม Link ข้างล่างนี้