ทัศนคติ “ทำได้”
คนที่สามารถทำสิ่งที่ยากและท้าทายได้สำเร็จ จะต้องมีทัศนคติ “ทำได้” หรือ “Can-do Attitude” เกิดขึ้นในใจก่อนลงมือทำเสมอ แต่การคิดว่าตัวเองทำได้เพียงอย่างเดียวคงจะไม่เพียงพอ มันจะต้องมีความเชื่อมั่นที่เกิดจากการวางแผนและผ่านการฝึกฝนเป็นอย่างดีมาก่อน จึงจะมีโอกาสทำได้สำเร็จจริง และคนที่มีทัศนคติ “ทำได้” มักจะมองเห็นหรือกล้าคว้าโอกาสใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิตและชอบคิดหาคำตอบว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้สำเร็จ ต่างจากคนที่มีทัศนคติ “ทำไม่ได้ หรือ Can’t-do Attitude” ที่มักจะมองข้ามและปฏิเสธโอกาสที่เข้ามาในชีวิตเพราะไม่กล้าเสี่ยง มองเห็นแต่อุปสรรคและมัวแต่กังวลกับปัญหาที่คิดว่าจะเกิดขึ้นมากมายในอนาคตหากลงมือทำสิ่งนั้น จึงทำให้วิธีคิดและการดำเนินชีวิตของคนทั้งสองแบบแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
คนที่มีทัศนคติ “ทำได้” ชอบคิดนอกกรอบ ชอบการเปลี่ยนแปลง กล้ารับงานที่ท้าทาย ไม่ปฏิเสธงานทันทีที่ได้รับมอบหมาย แต่จะรับไปคิดพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะตอบว่าสามารถทำได้หรือทำไม่ได้ และมักจะทำงานได้สำเร็จตามที่ตกลงกันไว้ แต่น่าเสียดายที่คนลักษณะนี้มีไม่มากนักในแต่ละองค์กร ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่เราพบจะดูเหมือนคนที่มีทัศนคติทำได้ ชอบรับปากง่ายๆ แต่สุดท้ายก็ทำไม่เสร็จ หรือเสร็จแบบขอไปที เอาแค่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ แต่ไม่มีคุณภาพเพียงพอ จึงขอเรียกคนพวกนี้ว่ามีทัศนคติ “ได้ทำ”
ในการทำงานที่ต้องทำร่วมกันเป็นทีม ปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะส่งผลต่อความสำเร็จตั้งแต่ก้าวแรกคือ ทีมงานทุกคนจะต้องมีทัศนคติ “ทำได้” และมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะช่วยกันทำให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการร่วมกัน ฉะนั้น หากพบว่ามีคนในทีมที่ไม่เชื่อว่าเป้าหมายจะทำให้สำเร็จได้จริง ต้องรีบหาทางแยกคนๆ นั้นออกไปจากทีมทันที
ในการบริหารองค์กรให้บรรลุผลสำเร็จก็เช่นเดียวกัน ผู้นำจะต้องสะท้อนวิสัยทัศน์เป็นพันธกิจที่ชัดเจนและต้องมั่นใจว่าพนักงานทุกคนรับรู้ เข้าใจและมีทัศนคติต่อพันธกิจนั้นว่าสามารถทำได้ทุกคน ปัญหาที่พบบ่อยในองค์กรธุรกิจหลายแห่งคือ การมีวิสัยทัศน์สวยหรู มีพันธกิจที่ดูดี แต่ไม่สามารถสื่อสารให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจถึงแก่นแท้และวิธีการที่จะทำให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายเหล่านั้นอย่างแท้จริง นอกจากการใช้วิธีให้จดจำ จึงทำให้ข้อความเหล่านั้นไม่ต่างไปจากการโฆษณาชวนเชื่อมากนัก
แม้ว่าการมีทัศนคติ “ทำได้” จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่เราต้องมั่นใจก่อนว่า สิ่งที่เรากำลังทำนั้นมีประโยชน์ต่อตัวเรา เช่นเดียวกับองค์กรธุรกิจที่ต้องมีวิสัยทัศน์และพันธกิจที่ต้องส่งเสริมผลกำไร ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ส่งผลต่อการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนให้แก่องค์กร โดยมีลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจที่เรานิยมวัดกันที่ความพึงพอใจ และในการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า นอกจากเราจะต้องรับรู้ความต้องการของลูกค้าแล้ว เรายังต้องหยั่งรู้ว่าลูกค้ามีปัญหาตรงไหนที่เราสามารถเข้าไปช่วยแก้ไขปรับปรุงได้อีกด้วย
การสร้างทัศนคติ “ทำได้” ให้เกิดขึ้นกับตัวเองจนกลายเป็นนิสัย “ฉันทำได้” ให้ผู้อื่นเกิดการยอมรับ เชื่อถือและศรัทธา อยากให้มาร่วมงานด้วยหรืออยากมอบหมายงานให้ทำ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ผลงานที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์และต้องใช้เวลาในการพิจารณากันอย่างยาวนานว่าสามารถทำได้จริงและมีความเสมอต้นเสมอปลายตามที่พูด จึงจะทำให้เกิดเป็นทัศนคติ “เชื่อว่าทำได้” หรือ “I believe you can do Attitude” ในใจผู้อื่น ดังนั้น องค์กรธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนจะต้องเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญในการสร้างทัศนคติเช่นนี้ให้เกิดขึ้นในใจลูกค้าของตนให้ได้และต้องรักษาสิ่งนี้ให้อยู่ในใจของลูกค้าตลอดไป
ณัฐ นิวาตานนท์
บริษัท ดี.จี. ทรานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ผู้ขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายมืออาชีพ
ท่านสามารถรับชมบทความนี้ในรูปแบบคลิป VDO ตาม Link ข้างล่างนี้