พฤติกรรมสำคัญกว่าเป้าหมาย
คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า เงินคือปัจจัยที่สำคัญที่สุด เพราะเราจำเป็นต้องใช้มันเพื่อซื้อสิ่งของที่จำเป็นและอยากได้ในการดำรงชีวิต ซึ่งเมื่อพิจารณาเหตุผลที่แท้จริงของการใช้เงินแล้ว เราจะพบว่า ถ้าไม่ใช้มันเพื่อสร้างความสุข ก็คงใช้ไปเพื่อบรรเทาความทุกข์ และนี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทุกคนต้องทำงานเพื่อจะได้มีเงิน
ไม่ว่าเราจะมีเงินมากน้อยแค่ไหนก็ตาม เราควรตระหนักไว้เสมอว่า บางสิ่งบางอย่างใช้เงินซื้อไม่ได้แต่เราต้องสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง เช่น เราไม่สามารถใช้เงินซื้อสติปัญญามาเพิ่มพูนความฉลาดหรือความเก่งกล้าสามารถให้แก่ตัวเองได้ถ้าเราไม่ศึกษาค้นคว้าและฝึกฝน เราไม่สามารถใช้เงินซื้อความแข็งแรงของร่างกายได้ถ้าเราไม่ออกกำลังกายและไม่กินอาหารที่มีประโยชน์ เราไม่สามารถใช้เงินซื้อจิตใจที่เข้มแข็งและความมุ่งมั่นได้ถ้าเราไม่ฝึกตัวเองให้มีสมาธิและวินัย เราไม่สามารถใช้เงินซื้อความรักหรือมิตรภาพที่แท้จริงจากใครได้ถ้าเราไม่มีความจริงใจและมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
เราจะสังเกตได้ว่าสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้และต้องสร้างเองเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เรามีความสามารถในการหาเงินเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญา ความฉลาด ความเก่ง ความสามารถ สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง จิตใจและวินัยที่เข้มแข็ง รวมถึงความจริงใจและมนุษย์สัมพันธ์ ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่มีทัศนคติและนิสัยอยู่เบื้องหลังเป็นหลัก
ดังนั้น การตั้งเป้าหมายในชีวิตที่ถูกต้องควรเป็นการตั้งเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขยันหมั่นเพียรมากขึ้น มุ่งมั่นจดจ่อมากขึ้น มีวินัยมากขึ้น อ่านหนังสือมากขึ้น และถ้าจะให้ดีไปกว่านั้น ควรตั้งเป้าหมายที่จะฝึกฝนตัวเองให้มีความสุขในทุกขณะที่กำลังแสดงพฤติกรรมเหล่านั้นโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้น ตัวเองจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม
เช่นเดียวกับการตั้งเป้าหมายในการทำงาน ควรตั้งเป้าหมายที่จะเป็นคนที่มีวินัย ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ศึกษาค้นคว้าเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในงานที่ทำ และตั้งเป้าหมายที่จะสนุกกับการทำงานทุกวัน สนุกกับการทำงานใหม่ๆ ที่ท้าทายและหลากหลาย สนุกกับการได้ใช้สติปัญญาเพื่อแก้ปัญหาและตัดสินใจ สนุกกับการได้เห็นผลสำเร็จของงาน สนุกกับการได้เห็นว่างานของตนมีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อองค์กร โดยมองเรื่องเงินเป็นผลพลอยได้ที่จำเป็น
การตั้งเป้าหมายในการทำงานที่มุ่งเน้นไปที่การได้ทรัพย์สินเงินทอง ลาภ ยศ สรรเสริญ โดยไม่ได้สนใจให้ความสำคัญกับพฤติกรรมว่าเหมาะสมหรือไม่ อาจทำให้โอกาสที่จะทำได้สำเร็จมีน้อยลง หรือถ้าทำได้สำเร็จด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การไม่ซื่อสัตย์ คดโกง เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ก็จะไม่ใช่ความสำเร็จที่ยั่งยืน ไม่ทำให้เกิดความสุขอย่างแท้จริง อาจทำให้ชีวิตล้มเหลวหรือติดคุกติดตะรางในบั้นปลายได้
การตั้งเป้าหมายที่จะทำงานให้ดีที่สุดนั้นอาจฟังดูดี แต่มาตรฐานของคำว่า “ดีที่สุด” ของแต่ละคนไม่เท่ากัน คนส่วนใหญ่ชอบคิดเข้าข้างตัวเอง ละเลยที่จะฟังเสียงสะท้อนจากคนรอบข้าง ไม่ประเมินผลงานรวมทั้งพฤติกรรมของตัวเองว่าเป็นที่พอใจของเจ้าของงาน หัวหน้า เพื่อนร่วมงานและลูกน้องหรือไม่ ประกอบกับองค์กรส่วนใหญ่มักมีระบบการประเมินผลงานที่สะท้อนจากอารมณ์และความรู้สึกเพียงปีละครั้งหรือสองครั้ง มากกว่าการพิจารณาให้ความสำคัญที่พฤติกรรมการทำงานของคนอย่างแท้จริงและต่อเนื่อง จึงทำให้องค์กรหลายแห่งไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ณัฐ นิวาตานนท์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ดี.จี. ทรานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ผู้ขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายมืออาชีพ
(ท่านผู้อ่านสามารถติดตามรับฟัง บทความนี้ในรูปแบบคลิป VDO ได้จาก Link ข้างล่างนี้)