การบำรุงรักษาคน
การศึกษาวิธีใช้งานไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรม รถขนส่ง รถยนต์ส่วนตัว หรือแม้กระทั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กภายในบ้าน ให้มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้และสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราสามารถใช้งานอุปกรณ์เหล่านั้นได้อย่างปลอดภัย และถ้าต้องการให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่เสียบ่อย คุ้มค่ากับเงินที่ใช้ไป เราจำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาที่ถูกต้องด้วย แต่มันอาจจะไม่ได้ผลดีนัก ถ้าหากเราไม่ได้ตัดสินใจเลือกซื้อของที่มีคุณภาพดีมาใช้ตั้งแต่ต้น
การใช้ของที่มีคุณภาพดีแต่มีการบำรุงรักษาที่ไม่ถูกต้องอาจให้ผลลัพธ์ที่แย่กว่าการใช้ของที่มีคุณภาพด้อยกว่าแต่มีการบำรุงรักษาที่ดีก็ได้ ฉะนั้น วิธีที่จะทำให้เกิดความใส่ใจและให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาอย่างแท้จริง คือ ต้องทำให้ผู้ใช้งานมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนว่า อุปกรณ์นั้นมีกลไกการทำงานอย่างไร มีจุดอ่อนตรงไหน มีข้อควรระวังที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษหรือไม่ มีระยะเวลาและความถี่ที่ต้องหมั่นตรวจสอบแค่ไหน และถ้าไม่ปฏิบัติตามแล้วจะเกิดผลเสียอย่างไร จึงจะทำให้เกิดความตระหนักตามมา
การบำรุงรักษาเป็นกระบวนการที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายแบบไม่คาดคิด หรือ Unplanned breakdown ที่เรานิยมเรียกว่า การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน จึงทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่นเพราะเราสามารถรับรู้ปัญหาได้ล่วงหน้าเพื่อนำไปวางแผนแก้ไขปรับปรุงก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้น ซึ่งการให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาตรงจุดใดจะมากน้อยแค่ไหนย่อมขึ้นอยู่กับขนาดของความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ถ้ามีปัญหาบกพร่องขึ้นในจุดนั้น
การบำรุงรักษาเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องใส่ใจไม่ใช่เฉพาะการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายแบบไม่คาดคิดของเครื่องจักรเท่านั้น แต่เราควรบำรุงรักษากระบวนการทำงานทุกขั้นตอนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและอุบัติเหตุแบบไม่คาดคิดด้วยเช่นกัน และนั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราต้องมีกระบวนการประเมินความเสี่ยงและบริหารจัดการกับความเสี่ยงที่ตรวจพบเพื่อให้มั่นใจว่าเรามีความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานตลอดเวลาด้วย
ตราบใดก็ตามที่ “คน” ยังเป็นทรัพยากรที่จำเป็นในกระบวนการทำงาน “การบำรุงรักษาคน” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกองค์กรไม่ควรมองข้าม โดยควรมีการออกแบบกระบวนการที่ชัดเจนครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการสรรหาคัดเลือกที่จะทำให้รู้ว่าคนที่เรากำลังจะรับเข้ามาร่วมงานด้วยนั้น มีทัศนคติ วิธีคิด คุณลักษณะนิสัยและจริตอย่างไร และต้องรู้วิธีการบำรุงรักษาที่เหมาะสมที่จะทำให้คนๆ นั้นสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพโดยไม่มีปัญหาที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงาน
ปัญหาและอุปสรรคสำคัญที่ทำให้กระบวนการบำรุงรักษาคนทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร คือ ความหยิ่งทะนงในตัวตน ที่เรามักเรียกว่า EGO ของคน บวกกับทัศนคติพื้นฐานที่คนเรามักเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นดีและถูกต้องเสมอ ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เปรียบเสมือนกำแพงที่ปิดกั้นการยอมรับว่าตัวเองมีจุดบกพร่องที่ต้องแก้ไขปรับปรุง ประกอบกับธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ที่มักจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงข้อบกพร่องของผู้อื่นโดยไม่จำเป็นอยู่แล้ว
องค์กรหลายแห่งจึงมักหลีกเลี่ยงวิธีการบำรุงรักษาคนเชิงป้องกัน มาเป็นวิธีกำหนดเป้าหมายความสำเร็จที่เรียกว่า ตัวชี้วัดผลงานที่สำคัญ หรือ KPI และพยายามทำให้เป็นเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ เช่น ยอดขาย ความผิดพลาด ข้อร้องเรียนจากลูกค้า หรือปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นปลายเหตุที่ต้องรอให้ความเสียหายเกิดขึ้นก่อนจึงค่อยย้อนกลับไปแก้ไขปรับปรุงซึ่งผิดหลักการของการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
วันนี้ หากองค์กรใดที่ยังจำเป็นต้องใช้คนทำงาน ผู้นำควรให้ความสำคัญกับเรื่องการบำรุงรักษาคนอย่างจริงจังและควรสร้างผู้บริหารที่มีความเข้าใจธรรมชาติของคนอย่างแท้จริง ทำให้เป็นผู้บริหารที่เก่งทั้งงาน เก่งทั้งคิด และเก่งคนด้วย โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างกระบวนการบำรุงรักษาคนในองค์กรเพื่อให้พนักงานได้ทำงานอย่างมีความสุข สนุกกับการสร้างผลงานให้มีประสิทธิภาพตามที่องค์กรต้องการ ซึ่งหากทำได้สำเร็จจริง นอกจากจะทำให้ลูกค้าประทับใจแล้ว มันจะส่งผลโดยตรงทำให้องค์กรมีความมั่นคงอย่างยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย โดยไม่จำเป็นต้องรอซื้อหุ่นยนต์อัจฉริยะมาทำงานแทนคนในอนาคต
ณัฐ นิวาตานนท์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ดี.จี. ทรานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ผู้ขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายมืออาชีพ
============= ================ =============
ท่านสามารถรับชมบทความนี้ในรูปแบบคลิป VDO ตาม Link ข้างล่างนี้