ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ชอบทำบุญทำทาน เป็นนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคนไทยที่สืบถอดกันมาอย่างยาวนานจนได้รับคำชื่นชมอย่างมากมายจากคนต่างชาติที่ได้สัมผัส แต่ก็มีบ่อยครั้งที่ในสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ทำงานที่เรามักจะนำวัฒนธรรมดังกล่าวไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องเพราะดันไปช่วยเหลือคนที่ทำผิด แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือโดยตรงก็ตาม แต่กลับไปช่วยปกปิดหรือวางเฉยไม่ว่ากล่าวตักเตือนแม้รู้เห็นการทำผิดนั้น โดยชอบอ้างว่า “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน”
ปัญหาที่เกิดจากความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อย่างไม่ถูกกาลเทศะส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นระหว่างเพื่อนร่วมงานในระดับเดียวกัน แต่ก็มีไม่น้อยเช่นกันที่เกิดขึ้นกับระดับหัวหน้างานที่ให้ความเอื้อเฟื้อแบบนั้นกับลูกน้องของตน ซึ่งหากองค์กรใดก็ตามที่มีสภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นเยอะ ยิ่งมีมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้องค์กรแห่งนั้นมีโอกาสเจริญก้าวหน้าได้น้อยลงเพราะมันทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานต่ำ ผลงานที่ได้รับมักจะอยู่ในระดับธรรมดาหรือปานกลาง
เนื่องจากคนที่มีนิสัยเช่นนั้นจะให้ความสำคัญสูงสุดกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมากกว่าเป้าหมายความสำเร็จของตัวเองและองค์กร
ความเกรงใจ มักถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างยอดนิยมเวลาที่ถูกถามว่าทำไมถึงไม่ตักเตือนเพื่อนร่วมงานหรือแม้กระทั่งลูกน้อง เมื่อเห็นว่าพวกเขาทำผิดหรือไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ ซึ่งอาจเป็นคำกล่าวอ้างที่ฟังดูดีแต่เชื่อได้เลยว่าเบื้องหลังคือ ความกลัว ไม่อยากมีเรื่อง ไม่อยากมีปัญหา ไม่อยากได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบใดๆ ไม่อยากถูกมองเป็นตัวร้ายในสายตาของผู้อื่น ไม่อยากเป็นแกะดำ ซึ่งแท้ที่จริงควรบอกว่าไม่อยากเป็นแกะขาวมากกว่า
แม้ว่าสัญชาตญาณการเอาตัวรอดจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีติดตัวมาแต่กำเนิดก็ตาม แต่เราควรมีจิตสำนึก ตระหนักรู้ถึงความผิดชอบชั่วดี ควรมีความเกรงกลัวและละอายใจเมื่อต้องทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องที่เรียกว่า หิริโอตัปปะ ให้มากกว่าการเอาตัวให้รอดเพื่อใช้ในการควบคุมนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และความโอบอ้อมอารีของเราให้คงความสง่างามตามวิถีไทยโดยไม่ทำให้ออกนอกลู่นอกทางและไม่ถูกอิทธิพลครอบงำจากความขี้ขลาดและความกลัวจนทำให้สังคมไม่น่าอยู่เพราะมีแต่แกะดำเต็มไปหมด
ฉะนั้น ในการพิจารณาคัดเลือกคนให้เข้ามารับบทบาทหน้าที่เป็นหัวหน้างาน เป็นผู้จัดการ เป็นผู้บริหารหรือเป็นผู้นำ คงจะต้องดูให้มั่นใจเสียก่อนว่าคนๆ นั้นมีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และโอบอ้อมอารีแบบไม่ถูกกาลเทศะหรือไม่ มีนิสัยขี้เกรงใจเกินไปหรือป่าว ยึดถือค่านิยม “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” มากน้อยแค่ไหน หรือชอบเป็นแกะดำมากกว่าแกะขาว เพราะนิสัยและค่านิยมที่เหมือนดูดีเหล่านี้นี่เองที่เป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงที่ขวางกั้นความเป็นมืออาชีพของคนไทย เป็นรากเหง้าที่ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากลของประเทศเราสู้คนอื่นเขาไม่ได้นั่นเอง
ณัฐ นิวาตานนท์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ดี.จี. ทรานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ผู้ขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายมืออาชีพ