คนเราทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมายที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตและเหตุการณ์ส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยชอบมากกว่าเรื่องที่ชอบ แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่ทุกคนต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่าความรู้ที่เป็นบทเรียนอันล้ำค่าและจดจำได้ไม่รู้ลืมมักมาจากเหตุการณ์ที่ไม่ชอบเสียเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งได้รับผลกระทบมากเท่าไหร่ยิ่งจำแม่น เราจึงควรมองเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแง่บวกเพราะมันคือ จุดเริ่มต้นของการสร้าง “ประสบการณ์ในชีวิต”
คนส่วนใหญ่มักชอบเชื่อมโยงประสบการณ์เข้ากับระยะเวลาและอนุมานว่าคนที่ใช้ชีวิตมานานย่อมมีประสบการณ์มากกว่าคนที่อายุน้อยกว่า มักชอบคิดว่าคนที่อายุน้อยแต่ทำงานได้ดีเป็นเพราะเขาโชคดี มีโอกาสมากกว่าหรือมีพรสวรรค์ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องของความขยัน หมั่นเพียร มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ อุตสาหะและอดทน ที่เรียกว่า พรแสวง ล้วนๆ
การเปลี่ยนเหตุการณ์ที่ประสบให้เป็นประสบการณ์ให้ได้มากที่สุดจึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญโดยเราจะต้องคิดเสมอว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นแล้วก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาหรือส่งผลกระทบทางลบต่อเราไม่ว่ามากหรือน้อย เราจำเป็นต้องค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาเหล่านั้นให้เจอว่ามันคืออะไรกันแน่ และเมื่อรู้สาเหตุที่แท้จริงแล้วก็ต้องคิดหาวิธีป้องกันและนำไปปฏิบัติเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานั้นซ้ำขึ้นอีก
เหตุการณ์ที่ประสบจะถูกเปลี่ยนเป็นกรณีศึกษาให้แก่เราได้ก็ต่อเมื่อมันเกิดเป็นสิ่งเรียนรู้ที่สร้างเป็นวิธีการให้เราสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์และเกิดผลขึ้นจริงเท่านั้น และนี่คือวิธีการของคนที่มีประสบการณ์สูงที่ไม่ได้มีเฉพาะแค่ความรู้ แต่ต้องมีสติปัญญาที่จะสามารถเชื่อมโยงความรู้ที่มีอยู่เหล่านั้นให้สามารถนำไปใช้ให้เกิดผลได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมและถูกกาลเทศะ ต่างจากคนที่มีความรู้แต่ไม่สามารถนำความรู้ที่มีอยู่ไปใช้ได้จริงจึงมักถูกเรียกว่า “มีความรู้ท่วมหัว แต่เอาตัวไม่รอด” เพราะมีแต่ความรู้แต่ไม่มีประสบการณ์
ระบบการศึกษาสมัยใหม่จึงมุ่งเน้นให้คนเรียนรู้สิ่งที่ตนเองสนใจอย่างลึกซึ้ง เน้นภาคปฏิบัติให้รู้ลึกและรู้จริงในสิ่งที่ทำจนเป็นผู้เชี่ยวชาญ เราจึงสังเกตเห็นว่าปัจจุบันมีคนรุ่นใหม่ที่อายุน้อยแต่มีประสบการณ์สูงในงานที่ทำมากขึ้น ประกอบกับในสังคมปัจจุบันก็เปิดกว้างยอมรับอาชีพใหม่ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องยึดติดค่านิยมเดิมๆ ที่ต้องเป็นหมอ เป็นเภสัชกร เป็นวิศวกร เป็นสถาปนิกเหมือนเช่นในอดีต ใครร้องเพลงเก่งไปเป็นนักร้องโดยไม่ถูกมองว่าเต้นกินรำกิน ใครชอบทำอาหารไปเรียนเป็นเชฟมืออาชีพที่ไม่ต้องอายใคร
ประสบการณ์ไม่ควรถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำเท่านั้น แต่เราควรใช้ประสบการณ์ในการคาดการณ์อนาคตเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ให้ดีขึ้น แปลกใหม่ขึ้นแตกต่างจากคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วดั่งเช่นในปัจจุบันที่ประสบการณ์ในอดีตอาจนำไปใช้ในอนาคตได้ไม่มากนัก
ดังนั้น การจินตนาการเหตุการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตแม้ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอดีตจึงเป็นโจทย์ใหม่ที่ท้าทายและไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดขึ้นก่อน เพราะหากมัวแต่รอให้เกิดขึ้นก่อนเราอาจจะไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกต่อไป
ณัฐ นิวาตานนท์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ดี.จี. ทรานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ผู้ขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายมืออาชีพ