เรามักเรียกคนที่มองโลกในแง่ดีว่าเป็น คนคิดบวก คนคิดบวกมองเห็นโอกาสในวิกฤต มองปัญหาเป็นปัญญา มองการเปลี่ยนแปลงเป็นความท้าทาย ทำให้คนคิดบวกสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่วิตกกังวล หรือโมโหโกรธเคืองในเรื่องใดมากจนเกินไป แถมยังช่วยทำให้อารมณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติได้เร็วด้วย ทำให้คนคิดบวกมีความสุขมากกว่าทุกข์ การคิดบวกจึงเป็นทักษะที่ต้องนำมาใช้ทุกครั้งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์
องค์ประกอบสำคัญของการคิดบวกคือ ความหวัง และ ความเชื่อมั่น โดยมีเป้าหมายผลลัพธ์ที่จะทำให้ตัวเองและผู้อื่นดีขึ้น การที่เราจะคิดบวกได้กับเรื่องใด นั่นหมายความว่า เรากำลังมีความหวังที่จะทำให้เกิดสิ่งดีๆ บางอย่างกับเรื่องนั้น และมีความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่หวังนั้นมีโอกาสเป็นจริงได้ ผลของการคิดบวกจึงทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจขึ้น เครียดน้อยลง ทำให้มีสมาธิมากขึ้น
คนคิดบวกมองเห็นโอกาสในวิกฤตเพราะมีความหวังว่าพวกเขาจะสามารถฉวยโอกาสที่จะได้รับผลกระทบด้านบวกมากกว่าด้านลบและมีความเชื่อมั่นในความสามารถ ประสบการณ์และความมุ่งมั่นของตนเองว่าจะสามารถคิดหาทางออกและฟันฝ่าวิกฤตไปได้ในที่สุด
คนคิดบวกมองปัญหาเป็นปัญญาเพราะมีความหวังว่าปัญหานั้นจะทำให้เขาได้รับความรู้และมุมมองใหม่ๆ เกิดเป็นกรณีศึกษาและสิ่งเรียนรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์ต่อยอดและป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำในอนาคตได้ และเชื่อว่าการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือ การเรียนรู้จากปัญหาและความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
คนคิดบวกมองการเปลี่ยนแปลงเป็นความท้าทายเพราะมีความหวังว่าพวกเขาจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมและเชื่อมั่นว่าโลกไม่มีวันพัฒนามาถึงจุดนี้ได้ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนแปลงเท่านั้นที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนตัวเราให้พัฒนามากยิ่งขึ้นในอนาคต
คนคิดบวกเมื่อก้าวขึ้นไปบนเวทีการแข่งขันใดๆ พวกเขาจะมีความหวังเต็มเปี่ยมที่จะเป็นผู้ชนะเพราะเชื่อมั่นว่าตัวเองได้ฝึกฝนและเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี แต่แม้ว่าจะไม่ชนะ คนคิดบวกก็จะไม่ท้อแท้เพราะมองความพ่ายแพ้เป็นบทเรียนล้ำค่าและจะรีบลุกขึ้นสู้ใหม่ด้วยความหวังว่าจะทำสำเร็จได้ในที่สุดด้วยความเชื่อมั่นในความสามารถของตน
การมีความหวังบนความเชื่อมั่นที่เลื่อนลอย ฝากความหวังไว้กับโชคชะตาราศี คำอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือคำทำนายของหมอดู ไม่ถือว่าเป็นการคิดบวก แต่เป็นการคิดเพียงเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกสบายใจขึ้น ถือว่าเป็นการปลอบใจตัวเองเท่านั้น
ส่วนการมีความหวังว่าจะไม่เกิดปัญหาขัดข้องหรือเหตุเลวร้ายใดๆ ขึ้นกับตัวเองเพราะเชื่อว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นดีแล้วจนทำให้ละเลย เพิกเฉย ไม่มีการทบทวนหรือตรวจสอบก็ไม่ถือว่าเป็นการคิดบวกแต่จะเรียกว่า ประมาท
การใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ อย่างสิ้นหวัง คิดว่าตัวเองโชคร้ายและขาดความเชื่อมั่นจึงเปรียบเสมือน การคิดลบ ซึ่งหากปล่อยไว้นานโรคซึมเศร้าจะถามหา ถ้าไม่พยายามแก้ไขด้วยการเติมความหวังและสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองให้ได้ สุดท้ายคงคิดฆ่าตัวตายและอาจต้องไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่แย่กว่าเดิม
ต่างจากคนคิดบวกที่แม้ว่ากำลังจะตาย ก็ยังมีความหวังว่าตัวเองกำลังจะได้ไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่สูงกว่า เชื่อมั่นว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่าในชาติหน้าและจากไปอย่างสงบ
ณัฐ นิวาตานนท์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ดี.จี. ทรานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ผู้ขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายมืออาชีพ