"หน้าที่" คือ ภารกิจที่ต้องทำ เมื่อทำภารกิจนั้นสำเร็จ จึงจะเรียกว่ามี "ความรับผิดชอบ"
สาเหตุรากเหง้าของปัญหาการไม่บรรลุผลสำเร็จในการทำงานและเป็นสิ่งที่หัวหน้างานส่วนใหญ่มักมองข้ามและละเลยคือ การไม่บอกให้ลูกน้องของตนรู้หน้าที่และความคาดหวังต่อผลสำเร็จของงานให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น
การตำหนิลูกน้องว่าไม่มีความรับผิดชอบโดยไม่ได้บอกให้เขารู้หน้าที่ตั้งแต่แรกจึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมและไม่ถูกต้อง
หัวหน้าที่ดีจะต้องพิจารณาที่ตัวเองก่อน โดยย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นใหม่ว่าเราได้ทำสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้ครบถ้วนแล้วหรือยัง
1. ชี้แจงงานที่ลูกน้องต้องทำและผลสำเร็จที่คาดหวังจากงานนั้นที่มักเรียกสั้นๆ ว่า ผลงาน โดยบอกให้เขารู้ทั้งเชิงปริมาณ คุณภาพและกรอบระยะเวลาที่จะต้องทำให้สำเร็จ
2. อธิบายให้เข้าใจถึงความสำคัญของงานนั้นว่า ผลสำเร็จของมันจะมีประโยชน์ต่อตัวเขาอย่างไรและจะส่งกระทบด้านบวกต่อองค์กรอย่างไร
3. อบรม สั่งสอน และแนะนำให้เขารู้วิธีที่จะทำงานนั้นให้สำเร็จ รวมถึงการทำให้ดูเป็นตัวอย่างจนกว่าจะมั่นใจว่าลูกน้องเข้าใจและสามารถทำได้เองโดยลำพัง
4. ทำข้อตกลงอย่างไม่เป็นทางการร่วมกันให้เป็นคำมั่นสัญญาว่าจะทำงานนั้นให้สำเร็จและยินดียอมรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นถ้าทำไม่ได้
5. ทำให้ลูกน้องเห็นว่าเราให้ความสำคัญกับงานที่มอบหมายให้เขาทำอย่างแท้จริงโดยมีการประเมินผลสำเร็จอย่างสม่ำเสมอ ให้คำปรึกษาเพื่อการแก้ไข ปรับปรุงและมีข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
หากทำครบทั้ง 5 ข้อแล้วยังพบว่าลูกน้องยังทำงานไม่สำเร็จ หน้าที่ของหัวหน้างานที่ดี คือ ให้โอกาสแก้ไขปรับปรุงอีกสักครั้ง แต่ถ้ายังทำไม่ได้อีกก็ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงให้เขาไปทำงานอื่นที่เหมาะสมกว่า
ถ้าไม่ทำเช่นนั้น หัวหน้าเองนั่นแหละคือ คนที่ไม่มีความรับผิดชอบ และสมควรถูกเปลี่ยนให้ไปทำงานที่อื่นแทน
ณัฐ นิวาตานนท์
กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ดี.จี. ทรานส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ผู้ขนส่งสารเคมีและวัตถุอันตรายมืออาชีพ